ในบรรดานักฟุตบอลระดับท็อปของโลกที่สามารถทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจที่ฟุตบอลยุโรปทั้ง 5 ลีกใหญ่ในฤดูกาล 2023-2024 ที่ผ่านมา บางคนก็เป็นนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียง เกียรติประวัติมาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่บางคนก็ไม่เคยมีใครได้ยินชื่อมาก่อน จนกระทั่งมาสร้างชื่อให้กับตัวเองในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา อาจจะเป็นดาวรุ่งที่ได้เเจ้งเกิด นักฟุตบอลอดีตโนเนมที่หาโมเมนตัมจนเจอ หรือเซียนวัยเก๋าที่ได้เฉิดฉายในช่วงสุดท้ายของอาชีพ ทางเว็บไซต์ Onefootball ได้คัดเลือกนักฟุตบอลจำพวกนี้มา 6 คน เรามาดูกันเลยครับว่าจะมีใครกันบ้าง
โคล พาลเมอร์ (เชลซี, อังกฤษ)
ถือเป็นการตัดสินใจที่ช็อคแฟนบอลหลายคน เมื่อโคล พาลเมอร์ ประกาศอำลาทีมรัก ทีมเยาวชน และทีมที่ถือได้ว่าดีที่สุดในโลกทีมหนึ่ง อย่าง “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” เพื่อย้ายไปซบทีมที่กำลังต้องเจอมรสุม วิกฤตการณ์มากมาย และการบริหารที่ย่ำแย่ อย่าง “เชลซี” หลายคนมองว่า พาลเมอร์เลือกที่จะยอมเสียโอกาสคว้าแชมป์นับไม่ถ้วน เพื่อแลกกับการลงเล่นฟุตบอลเป็นตัวหลักให้กับทีม และหลายคนก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากจากตัวพาลเมอร์ ยิ่งเมื่อทราบว่าเชลซีต้องควักเงินจ่ายมากกว่า 42 ล้านปอนด์ หรือเกือบ 2 พันล้านบาทเลยทีเดียว
ใครที่ตั้งข้อสงสัยในตอนนั้น ก็ต้องกลืนคำพูดตัวเองในวันจบฤดูกาล เนื่องจากพาลเมอร์ยกระดับมาตรฐานของตัวเองและเชลซีไปอีกระดับ พาทีมที่กำลังเจอวิกฤติ ให้ขึ้นไปจบถึงอันดับ 6 ของตารางได้อย่างเหลือเชื่อ โดยพาลเมอร์ทำสถิติยิงประตูไป 22 ประตู แอสซิสต์ให้เพื่อนไปอีก 11 ครั้ง ทำให้เขามีส่วนร่วมกับการทำประตูถึง 33 ประตู คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของ 77 ประตูที่เชลซียิงได้ในฤดูกาลนี้ ทั้งยังเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในบรรดาผู้เล่นพรีเมียร์ลีกอังกฤษเกือบ 600 คน แถมยังคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลของศึกพรีเมียร์ลีก (Premier League Young Player of the Season) รวมถึงรางวัลผู้เล่นแห่งปีจากการโหวตของแฟนบอล (PFA Fans’ Player of the Year) อีกด้วย
แซร์อู กีราซี (ชตุตการ์ต, กินี)
ชตุตการ์ตทำผลงานได้ดีอย่างน่าตกใจในฤดูกาลนี้ สามารถทำผลงานได้ดีจนแซงบาเยิร์น มิวนิก ขึ้นไปจบอันดับ 2 ของตาราง ถือเป็นอันดับจบฤดูกาลที่ดีที่สุด นับตั้งแต่ทีมสามารถคว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้ในฤดูกาล 2006-2007 หรือกว่า 17 ปีมาแล้ว ทั้งที่ในฤดูกาลก่อนหน้านี้ ชตุตการ์ตรอดตกชั้นไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปดเท่านั้น
ซึ่งผู้เล่นคนสำคัญที่พาชตุตการ์ตบินสูงได้ถึงขนาดนี้ ก็คือ แซร์อู กีราซี ดาวยิงที่โนเนมมาก่อนจนถึงฤดูกาลนี้ ซึ่งฟอร์มอันร้อนแรงของกีราซีก็ได้เริ่มขึ้นมาตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล โดยเขาสามารถทำประตูได้ถึง 13 ประตูจาก 7 เกมแรก ทำลายสถิติของโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ที่เคยทำไว้ 11 ประตูจาก 7 นัดแรกลงอย่างราบคาบ
หลังจบฤดูกาล กีราซีทำยอดประตูได้ไปถึง 28 ประตู เป็นรองแค่ซูเปอร์สตาร์ แฮร์รี เคน เท่านั้น ซึ่งทำให้ค่าฉีกสัญญาของกีราซีที่อยู่เพียง 17.5 ล้านยูโร หรือ 700 ล้านบาทเท่านั้น และตอนนี้ก็มีข่าวออกมาแล้วว่า โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ พร้อมจะควักกระเป๋าพาตัวกีราซีมาร่วมทีมแล้ว
อาร์เตม โดฟบิก (กิโรน่า, ยูเครน)
ในฤดูกาล 2022-23 โดฟบิกสามารถทำประตูให้กับดนิโปร ทีมในลีกประเทศบ้านเกิดอย่างยูเครนได้ถึง 24 ประตูจาก 30 นัด และกดไปทั้งหมด 29 ประตูในทุกรายการ ทำให้กิโรน่าซื้อตัวมาร่วมในช่วงซัมเมอร์ ด้วยค่าตัวแสนถูกเพียง 7 ล้านยูโร แต่ก็ถือเป็นสถิติค่าตัวสูงสุดของกิโรน่าในขณะนั้น หลายคนก็มองว่าการซื้อตัวนี้เป็นการซื้อตัวกองหน้าระดับเกรดบีอีกคน มาเป็นไม้ประดับของลาลีกาสเปนที่เต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์
แต่เงินทุกยูโรก็ได้รับการตอบแทนอย่างเต็มสูบ เนื่องจากโดฟบิกทำประตูในลาลีกาไปถึง 24 ประตู คว้ารางวัลปิชีชี่ (ดาวซัลโวประจำฤดูกาล) พากิโรน่าขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูง “ลาลีกา สเปน” อยู่ช่วงหนึ่ง และสุดท้ายก็ช่วยพากิโรน่าผ่านเข้ารอบไปเล่นรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ประจำฤดูกาล 2024-2025 อย่างสุดยอด แถมยังทำแอสซิสต์ไปได้ถึง 7 ครั้งอีกด้วย แถมยังเป็นขุมกำลังสำคัญ ยิงประตูชัยในเกมเพลย์ออฟที่เอาชนะบอสเนียฯ ไป 2-1 พายูเครนเข้าชิงรอบเพลย์ออฟ ก่อนจะคว้าชัยชนะได้สำเร็จ ได้กลับไปเล่นฟุตบอลยูโร 2024 ในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมนี้อีกด้วย
เลนี โยโร (ลีลล์, ฝรั่งเศส)
ถึงแม้จะมีอายุเพียง 18 ปี เลนี โยโร ก็สามารถโชว์ฟอร์มโดดเด่น ลงเล่นให้ลีลล์ไปถึง 44 เกม จนพาลีลล์จบอันดับท็อปโฟร์ ไปเล่นรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ประจำฤดูกาล 2024-2025 สถิติจากการลงเล่นถึง 44 เกมของโยโรถือว่าไม่แย่เลย ไม่ว่าจะเป็นอัตราการส่งบอลที่แม่นยำที่สุดเป็นอันดับสี่ของลีกเอิง (92.1 เปอร์เซ็นต์) เป็นรองแค่นักเตะมากประสบการณ์อย่าง มิลาน สคริเนียร์, มาร์คินญอส และดานิโล เปเรย์ร่า จากปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทำให้โยโรกลายเป็นนักฟุตบอลที่ผ่านบอลแม่นที่สุด ที่ไม่ได้เล่นให้กับปารีส แซงต์ แชร์กแมง
สำหรับผลงานในทีมชาติ เป็นที่คาดการณ์ว่าโยโรจะลงรับใช้ทีมชาติฝรั่งเศสเป็นรายการแรกในศึกโอลิมปิกฤดูร้อนประจำปี 2024 ที่จะจัดขึ้นที่กรุงปารีส ถือเป็นโอกาสอันดีที่โยโรจะได้สร้างชื่อให้กับตัวเองในนามทีมชาติต่อไป และสำหรับใครที่มองว่า ฝรั่งเศสมีโอกาสคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร 2024 ในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมนี้ ก็สามารถเดิมพันเพื่อลุ้นกันได้ที่ bk8 ตามลิ้งค์ได้เลย!
ริการ์โด กาลาฟิโอรี (โบโลญญ่า, อิตาลี)
กาลาฟิโอรีประเดิมสนามในวงการฟุตบอลอิตาเลียนกับทีม “หมาป่า” โรม่า แต่อาการบาดเจ็บที่หัวเข่าทำให้เขาหมดโอกาสไปต่อ และถูกขายให้กับบาเซิ่ล ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งที่บาเซิ่ล กาลาฟิโอรีก็สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดดเด่น จนทำให้โบโลญญ่าพาเขากลับมาเล่นฟุตบอลในบ้านเกิด
เม็ดเงินก้อนนั้นตอบแทนผลอย่างงดงาม เพราะกาลาฟิโอรีทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในวัย 22 ปี สามารถสะกัดบอลได้มากที่สุดเป็นอันดับสี่ของเซเรียอา เอาชนะการดวลบอลกลางอากาศได้ดีที่สุดเป็นอันดับแปด และถือเป็นตัวหลักในแนวรับของทีมชุดประวัติศาสตร์ ภายใต้การคุมทีมของติอาโก้ ม็อตต้า ซึ่งสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการพาโบโลญญ่าจบอันดับสามในเซเรียอา ไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ประจำฤดูกาล 2024-2025 ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 115 ปีของสโมสร
วิกเตอร์ โบนีเฟส (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น, ไนจีเรีย)
4 เดือนแรกของการแข่งขันบุนเดสลีกา ฤดูกาล 2023-2024 ปรากฏว่ามีนักเตะเพียงคนเดียวที่สามารถคว้ารางวัล “นักเตะหน้าใหม่ประจำเดือน” หรือ Rookie of the Month ได้ 4 ครั้งติดกัน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม, กันยายน, ตุลาคม และพฤศจิกายน นั่นก็คือ วิกเตอร์ โบนีเฟส กองหน้าชาวไนจีเรียน ที่ทำประตูไปเจ็ดครั้ง จ่ายไปอีกห้าประตู จากการลงเล่น 12 เกมแรก และถึงแม้เขาจะประสบกับอาการบาดเจ็บรุนแรงจนต้องพักไปถึงสามเดือน เขาก็จบฤดูกาลด้วยการมีส่วนร่วมกับ 22 ประตูจากการออกสตาร์ต 18 ครั้ง พาไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่นคว้าแชมป์บุนเดสลีกาเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แถมยังเป็นการคว้าแชมป์แบบไร้พ่ายอีกด้วย
ฤดูกาล 2024-2025 ที่จะถึงนี้ จะมีนักฟุตบอลคนไหนทำผลงานได้ดีต่อเนื่องต่อไปหรือไม่? จะมีนักฟุตบอลฟอร์มแรงคนไหนได้เข้ามามีชื่อปรากฏในรายชื่อนี้บ้าง? คงจะมีแค่เวลาเท่านั้นที่ให้คำตอบเราได้ครับ