รุ่น 2026 ของ NX500 มาพร้อมการอัปเดตใหญ่คือ ระบบ Honda E‑Clutch (คลัตช์อิเล็กทรอนิกส์) ซึ่งเป็นครั้งแรกในคลาส 500 ซีซี สำหรับHonda โดยรุ่นนี้ยังคงใช้เครื่องยนต์บล็อก 471 ซีซีเหมือนเดิม แต่เพิ่มความสะดวกและความน่าสนใจด้านการขับขี่ให้มากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่อยากได้บิ๊กไบค์แบบ “ใช้งานได้ทุกวัน” และ “ลุยได้บ้าง” ปรับภาพลักษณ์เป็นสายแอดเวนเจอร์อย่างเต็มตัว
ระบบ E-Clutch ช่วยให้ผู้ขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ / ออกตัว /หยุด โดยไม่จำเป็นต้องใช้คันคลัตช์ที่มือ ทำให้ลดโอกาสดับเครื่องในเมือง และลดความลำบากเมื่อใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
ดีไซน์แบบแอดเวนเจอร์ตัวจริง ด้วยล้อหน้า 19″/หลัง 17″, ระยะฐานล้อยาว 1,445 มม, ความสูงเบาะ 830 มม, ระยะจากพื้นถึงใต้ท้อง 180 มม.
ให้ผู้ขี่เลือกได้ว่าใช้ระบบ E-Clutch หรือยังคงใช้คลัตช์แบบมือได้ตามต้องการ — ผู้ใช้ยังคงได้ “ฟีลเกียร์ธรรมดา” ถ้าต้องการ
เครื่องยนต์ &ระบบขับเคลื่อน
เครื่องยนต์ 471 ซีซี แบบ 2 สูบเรียง (parallel-twin) ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมใช้หัว DOHC 8 วาล์ว
กำลังสูงสุดประมาณ 35 kW (47 hp) ที่ 8,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 43 Nm ที่ 6,500 รอบ/นาทีอัตราส่วนกำลังอัด 10.7 :1
เกียร์ 6 สปีด พร้อมระบบคลัตช์แบบ Wet multiplate + Assisted slipper clutch + Honda E-Clutch ในรุ่นนี้ (สามารถเลือกปิดระบบ E-Clutch ได้)ขับเคลื่อนด้วยโซ่ (Chain final drive)
โครงสร้าง ช่วงล่าง ระบบเบรก
เฟรม: Steel diamond type
ช่วงล่างหน้า: โช้คอัพ USD ขนาด 41 มม. แบบ Showa SFF-BP
ช่วงล่างหลัง: โช้ค Pro-Link แบบโมโน พร้อมปรับพรีโหลดได้ 5 ระดับ
ล้อหน้า: 19″ ด้านหลัง: 17″
ยางหน้า: 110/80 R19 , ยางหลัง: 160/60 R17
เบรกหน้า: ดิสก์คู่ ø296 มม. พร้อมคาลิปเปอร์ Nissin 2 ลูกสูบ
เบรกหลัง: ดิสก์เดี่ยว ø240 มม. พร้อมคาลิปเปอร์ 1 ลูกสูบ
ระบบความปลอดภัย: ABS 2 ช่อง + HSTC (Honda Selectable Torque Control) ช่วยควบคุมการลื่นของล้อหลัง
มิติ / น้ำหนัก / ความจุ
ความสูงเบาะ: 830 มม.
ระยะฐานล้อ: 1,445 มม.
ระยะจากพื้นถึงใต้ท้อง: 180 มม.
ความจุถังน้ำมัน: 17.5 ลิตร
น้ำหนักคัน (Kerb weight): ประมาณ 199 กก. สำหรับรุ่น E-Clutch
อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง: 3.6 ลิตร/100 กม. (ตาม WMTC)
เทคโนโลยี & ฟีเจอร์เด่น
หน้าจอ TFT สีขนาด 5 นิ้ว และรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Honda RoadSync
ไฟหน้า/ท้ายแบบ LED เต็มระบบ
ระบบคลัตช์อิเล็กทรอนิกส์ Honda E-Clutch:
ผู้ขี่เลือก ‘เปิด’ หรือ ‘ปิด’ ได้ผ่านสวิตช์บนแฮนด์ซ้ายเมื่อจอดอยู่ในเกียร์ว่าง
เมื่อติดตั้งระบบ E-Clutch แล้ว ผู้ขี่ไม่ต้องใช้คลัตช์ที่มือ ออกตัว/เปลี่ยนเกียร์ได้ด้วยคันเกียร์เท้าเพียงอย่างเดียว
มีแพ็กอุปกรณ์เสริม (Accessory Packs) เช่น Travel Pack, Adventure Pack, Urban Pack เพื่อเพิ่มความใช้งานในทริปหรือการใช้งานเมือง
สีตัวถังและสไตล์
สำหรับรุ่น 2026 มีสีตัวถังใหม่ที่เน้นบุคลิกสายแอดเวนเจอร์ ได้แก่:
- Mat Gunpowder Black Metallic
- Graphite Black + Matt Gunpowder Black Metallic
- Pearl Horizon White + Mat Crypton Silver Metallic



จุดเด่น & ข้อควรพิจารณา
จุดเด่น
- ระบบ E-Clutch ทำให้การขี่ในเมือง/รถติด/การจอดหยุดได้ง่ายขึ้น ลดความลำบากเรื่องคลัตช์
- เครื่องยนต์ 471 ซีซี ให้พลังและแรงบิดที่เหมาะสมทั้งใช้งานในเมืองและทริปกลาง-ยาว
- ดีไซน์แอดเวนเจอร์พร้อมล้อ 19/17 เหมาะสำหรับทั้งถนนและทางฝุ่นเบาๆ
- ฟีเจอร์ครบ เช่น หน้าจอ TFT เชื่อมสมาร์ทโฟน, HSTC, ABS 2 ช่อง
ข้อควรพิจารณา
- เบาะสูงถึง 830 มม. ซึ่งอาจสูงสำหรับผู้ขี่ที่ช่วงขาสั้น หรือใช้งานในเมืองต้องระวัง
- น้ำหนักประมาณ 199 กก. อาจหนักกว่ารุ่นเล็ก หรือแนวสตรีทที่เน้นความคล่องตัวมากกว่า
- ระบบ E-Clutch อาจมีความซับซ้อนในการบำรุงรักษา/อะไหล่มากกว่าระบบคลัตช์แบบดั้งเดิม — ควรตรวจสอบศูนย์บริการและอะไหล่ในไทย













