Ducati ยุค ’60s-‘70s

Ducati, ราคารถมอไซค์ >

อ่านกับเพลินๆDucati ยุค ’60s-‘70s

..ด้วยเสียง กึกก้องอาละวาด ด ด ด .. ผ่านแรงอัด 12:1 ที่ดูดผ่าน DELLORTO คาร์บูปากแตรเปลือย ๆ ขนาด * คจตถ. ปืนบาซูก้า เครื่องยิงจรวจต่อสู้รถถัง ปาก 28-32 ยุคนั้น ก่อนที่มันจะระเบิดเสียงกัมปนาท พร้อมกับโชว์ * Backfire ยาวเป็น 1-2 ฟุต แล้วแต่การกินอากาศ เมื่อตอนเร่ง ส่งกลิ่น สารปรอทดิบ หอมฉุย ย ย ย จากการเผาไหม้อันโหดเหี้ยม ม ม ม !?!..เจียมนรก ก ก.. “ดูคาตี้..จึงมีฉายาว่า ตายคาที่ ”
ชื่อของรถมอเตอร์ไซค์ “King Class” จากอิตาลี ฉายาของมันสมัยนั้นคือ ไอ้ปืนโต จากโบโลญญ่า * Bologna Italy อันมีอีกฉายา European Chinese * Eu –Chin (หรือ เจ๊กฝรั่ง ) เพราะเป็นยุโรปชาติเดียวที่เสียงดัง กินดัง เมาดัง ( ตลอดจน เอาดัง ง ง !?!) ตามแบบฉบับ Ummo –Donna

ณ. ยุค หจก. ห้างหุ้นส่วนจำกัด (* อันยังไม่มีใครกล้าตั้ง อุตสาหกรรมโรงงานผลิต หรือประกอบอันใด ทุกๆพ่อค้าไบค์จึงมีสิทธิ์ ให้สามารถนำเข้า ไบค์ตัวเป็นๆ ยกเป็นคันๆถอดล้อหน้าซ้อนข้างรถ แพ็คลัง ลงเรือที่เหลือก็แค่ไป Shipping ออกของ ณ ศุลกากร ท่าเรือคลองเตย อีกไม่กี่ร้อย ไม่กี่สตางค์ สมัยในทองคำ บาทละ 450 บาท (* หากเอาทองบาทละ 20,000 ไปหาร 450 ราคาทองคำจะห่างกันราว 225-230 เท่าตัว เข้าไปนู่น น น )

Ducati-60-70

Ducati-60-70s

ห้างหุ่นส่วนจำกัด แสงฟ้า แผนกจักรยานยนต์ (*ห้าง เตียวโม่วเส็ง ) ซึ่งบัดนี้จะหาสัพพัญญู ผู้รู้จริงเกี่ยวแก่ ห้างเตียวโม่วเส็ง นั้นแสนยาก ด้วยว่าแต่ละท่านวัฏสังขารา แสนชำรุดรุดร่วงโรยลงตามกาลอันเป็น..อนิจจัง
ไบค์ญี่ปุ่น เชอะ !!!! สมัยนั้นก็แค่ ไอ้จุกไอ้จ้อย อีสะก๊อยซ์ ยังไม่ระลึกชาติเก่า ที่พอมีให้ขยับแข้ง สลับขาคันสตาร์ทข้างซ้าย ข้างขวา ล้วนมาจาก ยุโรปล้วนๆ (ฝ้ายราชการกองทัพ ที่ชัดๆ ก็ H-D * เจ็ดแรงครึ่ง ซึ่งสนนราคาก็ไม่ได้แรงดังปัจจุบัน หลังปลดประจำการ แค่คันละ 2-3,000 บาท ก็แทบจะหาผู้กล้าแสนลำบาก ผิดกับนี่เลยฮะ BSA,TRIUMP, *ENFIELD , NORTON พออาศัย จาก โดยเฉพาะเจ้าตัวหลังถือเป็น สายพันธุ์แข่ง *MANX MAN TT Tourist Trophy ที่เป็นแถวหน้าหาตัวเป็นๆ ยากกว่าสาย A-B-C จำพวกหนักๆ หนาๆ สนนราคาพออุ้มสม 3-4-5 หมื่นบาท ถ้าหาก ระดับ BMW R25-R27-R50-R60-R75 ไปยัน R69 SPECIAL ตระกูลเพลาขับ กันสะเทือนอิสระ อาร์มกระบอกโช้ค ให้มีอันต้องควักถึง 6-7 หมื่นบาท เข้าไปโน่น น น
ที่ “จุกจ้อย” Boy size ไลท์เวท สุดๆ ก็แถวๆ 50-100 c.c. ก็จะมี KREIDLER, VESPA, LAMBRETTA, ( * Bajaj

ยังเป็นแค่ลูกน้ำในลำน้ำ คงคา) *สายแว๊น ..VANZA จำพวก YAMA –HON-KA-SU 90-100-125 c.c. ไว้ค่อยจะว่า VANZ ให้ฟัง แต่ Middle Weight นี่สิ ไอ้แสบสำคัญเพราะมันคือตัวพลิกทุกๆเกมส์กีฬา ประดามีในแดนสยามยุค ’60s-‘70s นั้น
รูปที่6

ทุกๆ DUCATI คือมันแพงระยับ..มาตลอด มันคือ สิงห์สนาม ด้วยพิกัดแค่ 250-350 c.c. ซึ่งยุคนั้นประดามีจากอังกฤษที่ยอมรับนับหน้ากันก็ต้อง สาย Twin สูบคู่ 500-650 c.c. ซึ่งจะเป็น สายตันโจ ( * ครีมแต่งผม TANJO POMADE จะฮิตมากสำหรับ สาย BSA-TRIUMPH สาย H-D 3-4 พัน ให้ถือว่า เกรียนสายทหาร ขนาดขี่ไปไหน ต้องมี * ปี๊ป แก้การม้วนอาย ติดมือไว้ในยุคนั้น
DUCATI ดูจะเป็นเช่นนี้มาตลอด คือมันแพงระยับ ระดับ จ่ายเท่ากับ BSA-TRIUMPH-ENFIELD สายผู้ดี 2 สูบ สุ้มเสียงกังวานระดับ กระแทกสาวๆ ผ้าหลุดทั้งที่ ลานพระบรมรูปฯ รึ สาวสวนแตง สวนลุมพินีสถาน พระราม4

แต่สำหรับ คูคาตี้ แล้ว * ห้างแสงฟ้า แผนกจักรยานยนต์ กล้าวางสนนราคาไว้ถึง 29,999 -39,900 บาท สำหรับ DESMO MACH I- MACH III ( พี่แก ไม่เคยมี MACH II) ซึ่งหากขึ้นถึงระดับ 4-5 ขึ้น 6 หมื่นบาท สายสนั่น ตันโจปอมเมด ก็จะได้ สนั่น น น น กระแทก นมสาวร้านตลาด ได้ไม่ซ้ำหน้าแล้วนี่กระไรหรือ ที่พลิกฟ้าฝืนพสุธา สยามประเทศไทย ให้บังเกิดเป็น “สิงห์สนาม..นาม ดูคาตี้”
DUCATI มิอาจเป็นที่นิยมได้เลย เพราะ สนนราคาของมันแพงเป็น 3 เท่า c.c. พิกัด 250-350 เดียวกันแม้ ห้างแสงฟ้า * หจก. เตียวโม่วเส็ง มีพยายาม จัดดาวน์ จัดผ่อน 12-18 เดือน ผ่อนส่ง 1 ปี-ปีครึ่ง ระดับการผ่อนก็ถึง 350-450 บาท / เดือน = ทอง 1 บาท x 12 -18 เส้นใยยุคนั้น เมีย รึ สะก๊อยซ์ กะร่อยกะริด ยอม *กัดก้อนเกลือกิน ที่ไหน มันจะยอมให้ผัว ให้ป๋า ไปผ่อนส่งทองคำเดือนละเส้น ละเส้น
ว่ากันว่า แนวการผ่อนส่งรถยนต์ – มอเตอร์ไซค์ ด้วยการวางดาวน์ -ค่างวด เริ่มมีมาตั้งแต่ หจก. เตียวโม่วเส็ง ห้างแสงฟ้า มีมาแต่ยุคนั้น เพราะ ห้างแสงฟ้า แผนกเครื่องใช้ฟ้า SANYO ก็ ก๊อปเป๊ะ เอามาจาก จักรเย็บผ้า SINGER ซึ่งจำหน่ายขายดีไปทั่วทุกตำบล อำเภอ จังหวัด เราจะเห็น *ศูนย์ซิงเกอร์ กว้างขวางมากมายในยุค ‘50s โดยต่อเนื่องยุคนั้น

เดสโม่ มัค 1 / มัค 3 ถือกำหนัด..เอ๊ย ถือกำเนิด ชัดเจน ในปี 1964-1969 ด้วย “MACH I” อันนิยามว่าเป็น *รุ่นฝาเดียว เครื่องยนต์เดียว Single 250 c.c. แรงอัดซูเปอร์อ็อกเทน 10-12 :1 แรงขึ้น ตามปีผลิต 24-28 แรงม้า 5 เกียร์ น.น. 116 kg. ที่จัดว่าเร็ว 100 mph (160 km/h) ด้วยการบิดและพลิ้ว เมื่อเทียบกับ ไอ้เหล็กล้วน ..* BSA-TRIUMPH-ENFIELD ปอมเมด ฯลฯ. หถือว่า คุ้มค่าราคาใกล้ ครึ่งแสน


ที่มันกว่าคือ “DESMO MACH III” นิยาม “สองฝา” ซึ่งถูกยกให้เป็น มวยไฟท์เตอร์ รุ่น Middle Weight ที่ตีกิน 500-650 TWIN จากอังกฤษได้ตั้งแต่ ไฟท์แรก
ยุค 1950s ด้วยความเป็น *DESMO ดูคาตี้ พบกับความสำเร็จ จากเทคโนโลยี่ทางกล (* น.น. วาล์วพิเศษ ตัวละแค่ 10 กรัม ที่ช่วยลด น.น. ทุกชิ้นส่วนกลไกแบบ SOHC 2 Valve ที่ใช้ประกอบเป็นขุมพลังของ DESMO ลงถึง 20 % นั่นจะหมายถึง เฉลี่ยทุกๆแรงม้า จะแบกรับ น.น.ตัวรถราว 2.5 kg. หรือ 1,000 c.c. จะมีแรงม้าถึง 250 bhp. (* นี่คือคำตอบง่ายดายว่าทำไม ปัจจุบัน ณ. ศ.ต 21st. ดูคาติ จึงเป็นแชมป์แรงม้า ณ ยุคปัจจุบัน !?@#$%)

ย้อนสู่อดีต สิงห์สยาม..นามดูคาติ ลำพังแค่ เดสโม มัค-วัน นัดแจ้งเกิด ก็พอไว้ 22-28 แรงม้าตามลำดับปี 1964-1968..
มัค-วัน ถูกนิยามว่า “ฝาเดี่ยว” เป็นรุ่น “เฟรมแคบ” ( Small Frame) ครั้นเมื่อเติบใหญ่ ฟิตปั๋ง DESMO MACH III นิยามว่า “สองฝา” ก็เข้ารับช่วงต่อในปี 1968 1968 MACH III เพื่อสอดรับกับ ระบบ Desmodromico – Valvole พลังสูง 24-34 bhp จึงได้ถูกหิ้วไว้กับ Big Frame ก็ แย๊ปยาว ตามออกมาให้เลือกทั้งบล็อกเครื่องยนต์ขนาด 250/350 MACH III
โดยเครื่องยนต์ ๆได้รับการ Upgrade ยังคงเป็นแบบเดียวกับรุ่น Narrow case ภาพจำของ “รถถนน” ทั้ง 250/350 Mark 3 มาพร้อมถังยาว ที่มีฝาถังน้ำมัน 2 ฝั่ง (บ้านเราเรียกรุ่น 2 ฝา) แต่ในปีถัดมาก็ได้ปรับลดลงเหลือ “ฝาเดียว” ในรุ่นพิเศษที่เรียกว่า Mark 3 Desmo (* และผลิตมาจนถึงปี 1973 เป็นครบ 5 ยก ..MACH III ..MARK 3..มัค 3 ก็ถือเป็นอันยุติ)

ในอันที่ WOKE BIKER ใคร่นำเสนอสิ่งแตกต่างจากการบอกเล่าธรรมดา นั่นคือ ประสบการณ์ ของการขับขี่ มวยมันส์ นั่นก็คือ DESMO ยุคนั้น ให้เข้ากันว่า พวกมัน KEYLESS START ไม่มีสวิทช์กุญแจสตาร์ท แค่เอี้ยวตัวเพื่อง้างเท้าขวา วางบนคันสตาร์ทโหนกับกำลังอัด High Comp 12:1 อัตราส่วนเพื่อระเบิด OCTAIN 100-120 RON ก่อนจะเอาไข่ขึ้นไปพาด DESMO MACH III
ด้วยเสียง กึกก้องอาละวาด ด ด ด.. ผ่านแรงอัด 12:1 ที่ดูดผ่าน DELLORTO คาร์บูปากแตรเปลือย ๆ ขนาด * คจตถ. ปืนบาซูก้า เครื่องยิงจรวจต่อสู้รถถัง ปากคาร์บู 28-32 ยุคนั้น ก่อนที่มันจะระเบิดเสียงกัมปนาท พร้อมกับโชว์ * Backfire ยาวเป็น 1-2 ฟุต แล้วแต่การกินอากาศ เมื่อตอนเร่ง ส่งกลิ่น สารปรอทดิบ หอมฉุย ย ย ย จากการเผาไหม้อันโหดเหี้ยม ม ม ม !?! ..เจียมนรก ก ก ก ..

ชมเว็บไซต์lensowheel.co.th ผู้ผลิตล้อแม็กอันดับ1ในประเทศไทย